บทความ ความสำคัญของการอ่าน
ความสำคัญของการอ่าน
การอ่าน ทำให้เราเข้าใจและเห็นใจความรู้สึกคนอื่น
การอ่านนิยายทำให้ผู้อ่านเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้เปลี่ยนแปลงความคิดของผู้อ่านด้วยได้ด้วย
การอ่าน ทำให้อายุยืน
สำหรับคนที่บอกว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือคงต้องทบทวนความคิดใหม่แล้ว เพราะยิ่งเราอ่านหนังสือ เราก็ยิ่งมีเวลามากขึ้น
การอ่าน ช่วยลดความเครียด
หาที่เงียบๆ แล้วหยิบหนังสือมาอ่านแค่ 6 นาที ก็สามารถทำให้ลดอัตราการเต้นของหัวใจและความตึงเครียดลงได้
การอ่าน ช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
การอ่านหนังสือที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิต ที่ทำให้เรามีความสุข มีแรงบันดาลใจ และช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้
การอ่าน ทำให้เราเข้าใจและเห็นใจความรู้สึกคนอื่น
มีงานวิจัยที่จัดทำขึ้นเพราะต้องการรู้ว่า การอ่านนิยายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองในช่วงเวลาพักยังไงบ้าง นักวิจัยได้ขอให้อาสาสมัครเข้าร่วมทดลองอ่านนิยาย จากนั้นจึงสแกนสมองเพื่อตรวจหาค่าการเปลี่ยนแปลง และเปรียบเทียบกับข้อมูลของคนที่ไม่ได้อ่าน
จากผลการวิจัย เค้าตรวจพบการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของการทำงานและโครงสร้างของสมองจากการอ่านนิยาย การอ่านนอกจากจะเสริมสร้างบริเวณที่ทำหน้าที่ประมวลผลทางภาษาแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อบริเวณที่ทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของการรับความรู้สึกอีกด้วย
วารสาร Trends in Cognitive Sciences ได้ศึกษาถึงผลกระทบของการอ่านนิยายต่อทักษะทางสังคม และพบว่าการอ่านนิยายทำให้ผู้อ่านเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้เปลี่ยนแปลงความคิดของผู้อ่านด้วยได้ด้วย ซึ่งเกิดขึ้นจาก
- การเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องหรือตัวละคร รวมถึงการลงความเห็นและสุดท้ายทำให้มีอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อเรื่อง
- การทำความเข้าใจเนื้อเรื่องในนิยายที่มีความซับซ้อนของตัวละครและเหตุการณ์ ต้องอาศัยการทำงานของสมองส่วนเดียวกันกับ การรับรู้และเข้าใจความคิดความรู้สึกความต้องการของผู้อื่น
การอ่าน ทำให้อายุยืน
มีการศึกษาถึงผลของการอ่าน ที่มีอาสาสมัครชายและหญิง อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 3635 คน โดยให้อาสาสมัครแต่ละคนบันทึกและส่งรายงานการอ่านหนังสือของตัวเอง ได้มีการบันทึกอัตราการเสียชีวิตของกลุ่มอาสาสมัคร ตลอดระยะเวลาติดตามผล 12 ปี
ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มคนที่อ่านหนังสือสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมงครึ่ง จะมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่อ่านหนังสือถึง 17% ส่วนกลุ่มคนที่อ่านหนังสือมากกว่าสัปดาห์ละ 3 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าถึง 23%
และนอกจากนั้น 12 ปีหลังการศึกษาสิ้นสุดลง ยังพบว่ากลุ่มคนที่อ่านหนังสือมีอายุยืนกว่าคนที่ไม่อ่านเกือบ 2 ปี
สำหรับคนที่บอกว่าไม่มีเวลาอ่านหนังสือคงต้องทบทวนความคิดใหม่แล้ว เพราะยิ่งเราอ่านหนังสือ เราก็ยิ่งมีเวลามากขึ้น
การอ่าน ช่วยลดความเครียด
ความเครียดเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตมากถึง 60% ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง 50% และโรคหัวใจมากถึง 40%
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดได้แก่ ปัญหาส่วนตัวและปัญหาทางสังคม
ปัญหาส่วนตัว เช่น ปัญหาสุขภาพ ความสัมพันธ์ในครอบครัว ความเชื่อความขัดแย้ง ปัญหาทางอารมณ์ เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในชีวิต และปัญหาเรื่องเงิน
ปัญหาทางสังคม เช่น สภาพแวดล้อมในการทำงาน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และความแตกต่างในสังคมที่ทำให้เกิดการเหยียดหยามกีดกัน
มีการศึกษาถึงผลของการอ่านที่ช่วยลดระดับความเครียดลงได้ถึง 68% ซึ่งมากกว่าการฟังเพลง การดื่มชา และการเดินที่ช่วยลดระดับความเครียดลงได้ 61% 54% และ 42% ตามลำดับ
ส่วนการเล่นเกมช่วยลดความเครียดลงได้ 21% ก็จริง แต่อัตราการเต้นของหัวใจจะไม่ได้ลดลง
จะเห็นว่าการอ่านหนังสือช่วยลดความเครียดได้ดีที่สุด สิ่งที่เราต้องทำก็เพียงแค่ หาที่เงียบๆ แล้วหยิบหนังสือมาอ่านแค่ 6 นาที ก็สามารถทำให้ลดอัตราการเต้นของหัวใจและความตึงเครียดลงได้
การอ่าน ช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
มีรายงานจากการวิจัยของ Dr Josie Billington (The University of Liverpool) ที่นำเสนอผลของการอ่านหนังสือที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิต ที่ทำให้เรามีความสุข มีแรงบันดาลใจ และช่วยผ่อนคลายความเครียดลงได้
จำนวนคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านให้ทำสิ่งต่างๆ
- 38% พบว่าการอ่านสร้างแรงบันดาลใจให้ออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ
- 20% พบว่าทำให้ค้นพบงานอดิเรกใหม่ๆ
- 19% พบว่าทำให้รู้จักเริ่มดูแลคนอื่นได้ดีขึ้น
- 17% พบว่าทำให้ดูแลสุขภาพมากขึ้น
- 12% พบว่าช่วยให้จิตใจสงบในยามที่เกิดความขัดแย้ง
- 10% พบว่ามีผลทำให้ลาออกจากงานที่ไม่ชอบแล้วหางานใหม่หรือได้เลื่อนตำแหน่ง
- 8% พบว่าช่วยให้ผ่านความเศร้าเสียใจจากการหย่าร้างหรือถูกทิ้ง
จำนวนคนที่ได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากการอ่าน
- 45% พบว่าช่วยให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล วัฒนธรรม และประเทศ
- 38% พบว่าช่วยให้ลืมความกังวล
- 31% พบว่าได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครและทำให้เกิดความกล้า
- 17% พบว่าช่วยให้เปลี่ยนมุมมองและเข้าใจปัญหาได้ดีขึ้น
จำนวนคนที่ได้รับผลกระทบจากการอ่านและทำให้เปลี่ยนความเข้าใจ
- 38% เข้าใจว่าเราไม่จำเป็นต้องมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
- 36% เข้าใจว่าสิ่งเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน ก็สามารถช่วยให้มีความสุขได้
- 35% เข้าใจว่าเราสามารถหาสิ่งดีๆ ได้จากสถานการณ์เลวร้าย
- 34% เข้าใจว่าเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง
- 31% เข้าใจว่าสามารถมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ตอนนี้ได้
สามารถเข้าไปอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่
บางคนอ่านหนังสือก่อนนอนเพราะทำให้ง่วงและหลับง่ายขึ้น คงเป็นเพราะการอ่านช่วยลดระดับความเครียดลง พอทำบ่อยๆ จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันก็ช่วยให้เราเตรียมพร้อมเข้าสู่ภาวะง่วงนอนได้เร็วขึ้น
เห็นประโยชน์ของการอ่านเยอะแบบนี้ ก็ต้องหาเวลาอ่านหนังสือบ้างแล้วล่ะ เริ่มต้นจากหนังสือที่อ่านง่ายๆ ไม่ต้องรีบอ่านให้จบ ค่อยๆ อ่านด้วยความเร็วคงที่ แล้วเราจะได้รับประโยชน์จากการอ่านได้เต็มที่